ปลากัดเป็นปลาพื้นเมืองของไทยอาศัยอยู่ตาม
หนอง - คลอง - บึง และตามทุ่งนา ปลากัด เราสามารถแบ่งออกเป็น3 ประเภท คือ ปลากัดหม้อ ปลาป่า ปลากัดจีน
ปลากัดหม้อ เป็นปลาที่ตัวโต หัวโต ปากใหญ่ และตัวใหญ่ และสามารถกัดได้ ทรหดยิ่งกว่าพันธุ์อื่นๆ
ปลากัดป่า เป็นปลาที่ตัวเล็กกว่าพันธุ์อื่นๆ ลักษณะตัวค่อนข้างยาว ว่องไว แต่กัดไม่ทน
ปลากัดจีน เป็นปลาที่ได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์ จน จนได้ปลาที่มีความสวยงามมากเป็นปลาที่มีลำตัวโต ครีบและหางยาว สีสันสวยและมีสีหลากหลายกว่าพันธุ์อื่นๆ
ปลากัด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens และมีชื่อสามัญว่า SiameseFighting Fish เป็นปลาพื้นเมืองของไทยที่นิยมเพาะเลี้ยงเป็นเวลานานแล้วทั้งนี้เพื่อไว้ดูเล่นและเพื่อกีฬากัดปลาและเป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศมานานเช่นกัน ปัจจุบันประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงปลากัดกันแพร่หลายเนื่องจากเป็นปลาที่เลี้ยงและเพาะพันธุ์ได้ง่ายจึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่หัดเริ่มเลี้ยงปลาต้องการดูแลเอาใจใส่ไม่มากนักและไม่จำเป็นที่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยมากเนื่องจากมีอวัยวะช่วยหายใจพิเศษที่เรียกว่า labyrinthโดยทำให้สามารถดึงออกซิเจนจากอากาศได้ในธรรมชาติแล้วพบได้ทั่วไปในน้ำที่นิ่ง หรือน้ำที่มีออกซิเจนต่ำนอกจากนั้นพบในนาข้าว และกระจายทั่วไปในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปลากัดเลี้ยงมีอายุเฉลี่ย 2 ปีหรือน้อยกว่า
ปลากัดพันธุ์ดั้งเดิมในธรรมชาติ มีสีน้ำตาลขุ่นหรือสีเทาแกมเขียวมีลายตามตัว ครีบ และหางสั้น ปลาเพศผู้มีครีบและหางยาวกว่าเพศเมียเล็กน้อยจากการเพาะพันธุ์และการคัดเลือกพันธุ์ติดต่อกันมานานทำให้ได้ปลากัดที่มีสีสวยงามหลายสีอีกทั้งลักษณะครีบก็แผ่กว้างใหญ่สวยงามกว่าพันธุ์ดั่งเดิมมากและจากสาเหตุนี้ทำให้มีการจำแนกพันธุ์ปลากัดออกไปได้เป็นหลายชนิด เช่นปลากัดหม้อ ปลากัดทุ่ง ปลากัดจีน ปลากัดเขมร เป็นต้นการแพร่กระจายของปลากัดพบทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำทะเลสาบ หนอง บึง แอ่งน้ำ ลำคลองฯลฯ
ในการเลี้ยงปลากัดเพื่อการต่อสู้มีการคัดเลือกพันธุ์ให้มีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถใช้ในการต่อสู้โดยเริ่มต้นจากการรวบรวมปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติเรียกกันว่า "กัดป่า หรือกัดทุ่ง" โดยมีลำตัวค่อนข้างเล็กบอบบาง สีน้ำตาลขุ่น หรือเทาแกมเขียวมีการนำมาเพาะเลี้ยงและคัดพันธุ์หลายชั่วอายุ จนได้ปลาที่มีรูปร่างแข็งแรงลำตัวหนาและใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ในกีฬากัดปลาซึ่งนิยมเรียกปลากัดชนิดนี้ว่า"กัดเก่ง"นอกจากนั้นปลากัดไทยนี้ยังได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้มีสีสันสวยสดมีผู้เลี้ยงปลากัดหลายรายได้มีการพัฒนาปลากัดที่ได้จากการคัดพันธุ์และผสมข้ามพันธุ์ปลากัด โดยเน้นความสวยงามเพื่อเลี้ยงไว้ดูเล่นโดยคัดพันธุ์เพื่อให้ได้ปลาที่มีครีบยาว สีสวยซึ่งนิยมเรียกปลากัดลักษณะเช่นนี้ว่า ปลากัดจีน หรือ ปลากัดเขมรซึ่งต่างประเทศรู้จัดปลากัดในนาม Siamese fighting fish
ในปัจจุบัน การพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดกำลังเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากนักเลี้ยงปลากัดเพื่อความสวยงาม แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าปัจจุบันนี้ ปลากัดมีสีสันสวยงามมากตั้งแต่ สีเหลืองทั้งตัว สีฟ้า Halfmoon มีเรื่องอ้างอิงกันมาถึงการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดโดยใช้สภาพแวดล้อมเป็นตัวเหนี่ยวนำ ด้วยมีความเชื่อว่าปลาที่มีสีสันสวยงามต่าง ๆ นั้นส่วนหนึ่งมาจากการถ่ายทอดความรู้สึกของเพศเมีย ไปยังลูกปลาได้มีการนำเทคนิคเหล่านี้มาใช้ในบรรดานักเพาะปลาทั้งหลายโดยการวาดรูปปลากัดที่มีสีสรรตามที่ต้องการ เช่น สีเหลืองทั้งตัวตั้งวางโดยรอบปลาเพศเมียในระหว่างที่ทำการเทียบคู่นั้น วิธีการนี้เรียกว่าPseudo-breeding techniqueถึงแม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์ออกมาทางวิชาการแต่ก็ได้รับการยืนยันจากนักเพาะเลี้ยงทั้งหลายว่า พบว่าคอกหนึ่ง ๆ ที่ได้ลูกปลาออกมานั้นจะมี 1 - 2ตัวที่มีลักษณะเหมือนกับภาพที่วาดไว้สีสันความงามของปลากัดสามารถแบ่งออกเป็นแบบต่าง ๆ ดังนี้
สีเดียว (Solid Colored Betta) เป็นสีเดียวทั้งครีบและตัว
สีผสม (Bi-colored Betta) ส่วนใหญ่จะมี 2 สีผสมกัน
สีผสมเขมร (Cambodia Colored Betta)
ลายผีเสื้อ (Butterfly Colored Betta)
ลายผีเสื้อเขมร (Combodian Butterfly Colored Betta)
ลายหินอ่อน (Marble Colored Betta)
รูปแบบของปลากัดไทยยังมีการแบ่งออกเป็นรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
รูปทรงปลาช่อน มีลำตัวยาวและหัวเหมือนปลาช่อน หัวใหญ่กว่าท้องเมื่อมองจากด้านบน รูปร่างเพรียว
รูปแบบปลาหมอ ตัวจะสั้นและค่อนข้างอ้วน รูปทรงค่อนข้างกว้าง
รูปแบบปลากราย หน้าเชิด ลำตัวตรง รูปทรงค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม มองด้านบนจะเห็นว่ารูปทรงผอมบาง มีครีบอกและครีบก้นยาว
รูปแบบปลาตะเพียน เป็นลูกผสมลำตัวป้อม ครีบยาวสวยงาม
ปลากัดหม้อ เป็นปลาที่ตัวโต หัวโต ปากใหญ่ และตัวใหญ่ และสามารถกัดได้ ทรหดยิ่งกว่าพันธุ์อื่นๆ
ปลากัดป่า เป็นปลาที่ตัวเล็กกว่าพันธุ์อื่นๆ ลักษณะตัวค่อนข้างยาว ว่องไว แต่กัดไม่ทน
ปลากัดจีน เป็นปลาที่ได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์ จน จนได้ปลาที่มีความสวยงามมากเป็นปลาที่มีลำตัวโต ครีบและหางยาว สีสันสวยและมีสีหลากหลายกว่าพันธุ์อื่นๆ
ปลากัด มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens และมีชื่อสามัญว่า SiameseFighting Fish เป็นปลาพื้นเมืองของไทยที่นิยมเพาะเลี้ยงเป็นเวลานานแล้วทั้งนี้เพื่อไว้ดูเล่นและเพื่อกีฬากัดปลาและเป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศมานานเช่นกัน ปัจจุบันประเทศไทยมีการเพาะเลี้ยงปลากัดกันแพร่หลายเนื่องจากเป็นปลาที่เลี้ยงและเพาะพันธุ์ได้ง่ายจึงเหมาะสมสำหรับผู้ที่หัดเริ่มเลี้ยงปลาต้องการดูแลเอาใจใส่ไม่มากนักและไม่จำเป็นที่ต้องเปลี่ยนน้ำบ่อยมากเนื่องจากมีอวัยวะช่วยหายใจพิเศษที่เรียกว่า labyrinthโดยทำให้สามารถดึงออกซิเจนจากอากาศได้ในธรรมชาติแล้วพบได้ทั่วไปในน้ำที่นิ่ง หรือน้ำที่มีออกซิเจนต่ำนอกจากนั้นพบในนาข้าว และกระจายทั่วไปในเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปลากัดเลี้ยงมีอายุเฉลี่ย 2 ปีหรือน้อยกว่า
ปลากัดพันธุ์ดั้งเดิมในธรรมชาติ มีสีน้ำตาลขุ่นหรือสีเทาแกมเขียวมีลายตามตัว ครีบ และหางสั้น ปลาเพศผู้มีครีบและหางยาวกว่าเพศเมียเล็กน้อยจากการเพาะพันธุ์และการคัดเลือกพันธุ์ติดต่อกันมานานทำให้ได้ปลากัดที่มีสีสวยงามหลายสีอีกทั้งลักษณะครีบก็แผ่กว้างใหญ่สวยงามกว่าพันธุ์ดั่งเดิมมากและจากสาเหตุนี้ทำให้มีการจำแนกพันธุ์ปลากัดออกไปได้เป็นหลายชนิด เช่นปลากัดหม้อ ปลากัดทุ่ง ปลากัดจีน ปลากัดเขมร เป็นต้นการแพร่กระจายของปลากัดพบทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำทะเลสาบ หนอง บึง แอ่งน้ำ ลำคลองฯลฯ
ในการเลี้ยงปลากัดเพื่อการต่อสู้มีการคัดเลือกพันธุ์ให้มีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถใช้ในการต่อสู้โดยเริ่มต้นจากการรวบรวมปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติเรียกกันว่า "กัดป่า หรือกัดทุ่ง" โดยมีลำตัวค่อนข้างเล็กบอบบาง สีน้ำตาลขุ่น หรือเทาแกมเขียวมีการนำมาเพาะเลี้ยงและคัดพันธุ์หลายชั่วอายุ จนได้ปลาที่มีรูปร่างแข็งแรงลำตัวหนาและใหญ่ขึ้นเพื่อใช้ในกีฬากัดปลาซึ่งนิยมเรียกปลากัดชนิดนี้ว่า"กัดเก่ง"นอกจากนั้นปลากัดไทยนี้ยังได้มีการพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้มีสีสันสวยสดมีผู้เลี้ยงปลากัดหลายรายได้มีการพัฒนาปลากัดที่ได้จากการคัดพันธุ์และผสมข้ามพันธุ์ปลากัด โดยเน้นความสวยงามเพื่อเลี้ยงไว้ดูเล่นโดยคัดพันธุ์เพื่อให้ได้ปลาที่มีครีบยาว สีสวยซึ่งนิยมเรียกปลากัดลักษณะเช่นนี้ว่า ปลากัดจีน หรือ ปลากัดเขมรซึ่งต่างประเทศรู้จัดปลากัดในนาม Siamese fighting fish
ในปัจจุบัน การพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดกำลังเป็นที่ยอมรับและได้รับความนิยมจากนักเลี้ยงปลากัดเพื่อความสวยงาม แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าปัจจุบันนี้ ปลากัดมีสีสันสวยงามมากตั้งแต่ สีเหลืองทั้งตัว สีฟ้า Halfmoon มีเรื่องอ้างอิงกันมาถึงการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดโดยใช้สภาพแวดล้อมเป็นตัวเหนี่ยวนำ ด้วยมีความเชื่อว่าปลาที่มีสีสันสวยงามต่าง ๆ นั้นส่วนหนึ่งมาจากการถ่ายทอดความรู้สึกของเพศเมีย ไปยังลูกปลาได้มีการนำเทคนิคเหล่านี้มาใช้ในบรรดานักเพาะปลาทั้งหลายโดยการวาดรูปปลากัดที่มีสีสรรตามที่ต้องการ เช่น สีเหลืองทั้งตัวตั้งวางโดยรอบปลาเพศเมียในระหว่างที่ทำการเทียบคู่นั้น วิธีการนี้เรียกว่าPseudo-breeding techniqueถึงแม้ว่าจะไม่มีการพิสูจน์ออกมาทางวิชาการแต่ก็ได้รับการยืนยันจากนักเพาะเลี้ยงทั้งหลายว่า พบว่าคอกหนึ่ง ๆ ที่ได้ลูกปลาออกมานั้นจะมี 1 - 2ตัวที่มีลักษณะเหมือนกับภาพที่วาดไว้สีสันความงามของปลากัดสามารถแบ่งออกเป็นแบบต่าง ๆ ดังนี้
สีเดียว (Solid Colored Betta) เป็นสีเดียวทั้งครีบและตัว
สีผสม (Bi-colored Betta) ส่วนใหญ่จะมี 2 สีผสมกัน
สีผสมเขมร (Cambodia Colored Betta)
ลายผีเสื้อ (Butterfly Colored Betta)
ลายผีเสื้อเขมร (Combodian Butterfly Colored Betta)
ลายหินอ่อน (Marble Colored Betta)
รูปแบบของปลากัดไทยยังมีการแบ่งออกเป็นรูปแบบต่าง ๆ ดังนี้
รูปทรงปลาช่อน มีลำตัวยาวและหัวเหมือนปลาช่อน หัวใหญ่กว่าท้องเมื่อมองจากด้านบน รูปร่างเพรียว
รูปแบบปลาหมอ ตัวจะสั้นและค่อนข้างอ้วน รูปทรงค่อนข้างกว้าง
รูปแบบปลากราย หน้าเชิด ลำตัวตรง รูปทรงค่อนข้างเป็นรูปสี่เหลี่ยม มองด้านบนจะเห็นว่ารูปทรงผอมบาง มีครีบอกและครีบก้นยาว
รูปแบบปลาตะเพียน เป็นลูกผสมลำตัวป้อม ครีบยาวสวยงาม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น